สอบ SAT คืออะไร มีเรื่องไหนที่ต้องทำความเข้าใจก่อนสอบบ้าง

สอบ SAT (Scholastic Aptitude Test หรือ Scholastic Assessment Test) คือ รูปแบบการทดสอบความรู้ตามมาตรฐานสากลในรายวิชาภาษาอังกฤษ (Reading และ Writing) และคณิตศาสตร์ ของนักเรียนระดับชั้น ม.ปลาย เพื่อใช้คะแนนสำหรับเข้าเรียนต่ออุดมศึกษาตามระบบการศึกษาของสหรัฐฯ และอีกหลายสถาบัน

จัดสอบขึ้นโดย College Board มีจุดประสงค์สำคัญในการใช้ข้อสอบตามเกณฑ์มาตรฐานประเมินทักษะของผู้สอบว่าสามารถเข้าศึกษาต่อในระดับสูงขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้น้อง ๆ คนไหนสนใจสอบ SAT จึงต้องรู้ข้อมูลทุกด้านอย่างครบถ้วน เพื่อให้มั่นใจมากขึ้น โอกาสทำคะแนนได้สูงไม่ใช่เรื่องยาก

ทำความรู้จักกับ College Board ช่องทางสมัครเพื่อสอบ SAT 

ในการสมัครเพื่อสอบ SAT จะต้องดำเนินการกับ College Board ซึ่งเป็นองค์กรประเภทไม่แสวงหาผลกำไรในสหรัฐฯ มีหน้าที่สำคัญด้านการพัฒนาหลักสูตรและจัดทดสอบตามมาตรฐานเพื่อประเมินความพร้อมของผู้เรียนหรือคนที่จะเข้าเรียนต่อไป ทั้งนี้ไม่ได้มีเฉพาะ SAT เท่านั้น แต่ทางสถาบันยังมีจัดสอบประเภทอื่นด้วย 

อย่างไรก็ตามหากน้อง ๆ คนไหนสนใจใช้คะแนนนี้เพื่อเรียนต่อกับมหาวิทยาลัยที่ตนเองคาดหวัง ก็สามารถสมัครสอบผ่านช่องทาง https://www.collegeboard.org/ เลือกรอบการสอบที่ตนเองสะดวกแล้วดำเนินการตามขั้นตอนให้ถูกต้องได้เลย

SAT Registration สมัครเพื่อสอบ SAT ไม่ยากอย่างที่คิด

เมื่อทำความรู้จักกับหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการสอบไปเรียบร้อย คราวนี้ก็มาถึงวิธีสมัครเพื่อสอบ SAT ซึ่งต้องบอกว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด สามารถทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ทันที

1. คลิกเข้าไปยังหน้าเว็บไซต์ https://www.collegeboard.org/ 
2. ทำการสมัครสมาชิก (Create Account) ตามขั้นตอนที่เว็บได้ระบุไว้
3. เมื่อได้รับ Username กับ Password เรียบร้อย ก็ทำการล็อกอินเพื่อเตรียมสมัครกันได้เลย
4. คลิกเข้ามายังหน้า MY SAT กดปุ่ม Register for the SAT 
5. กรอกรายละเอียดส่วนตัว ข้อมูลที่ทางสถาบันร้องขออย่างครบถ้วน พร้อมเตรียมรูปภาพหน้าตนเองไว้ด้วย
6. เลือกวัน-เวลา และสถานที่สำหรับการเดินทางไปสอบ SAT
7. ทำการอัปโหลดภาพใบหน้าตรงของตนเองลงไปบนใบสมัครสอบ
8. เช็กข้อมูลให้ละเอียดอีกครั้ง หากทุกอย่างเรียบร้อยแล้วดำเนินการต่อได้เลย
9. ทำการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต เท่านี้ก็เรียบร้อย

SAT Score คะแนนสอบ SAT แต่ละวิชาเป็นอย่างไรบ้าง

สำหรับ SAT Score หรือ คะแนนสอบ SAT จะมีคะแนนเต็มทั้งสิ้น 1,600 คะแนน ซึ่งแต่ละสถาบันหรือคณะต่าง ๆ ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศจะมีการกำหนดขั้นต่ำเอาไว้ชัดเจน เพื่อเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาผู้ที่เตรียมเข้าเรียน ทั้งนี้แต่ละรายวิชาจะแบ่งคะแนนเต็มออกเป็น

SAT Reading

ข้อสอบ 52 ข้อ เวลาสอบ 65 นาที และ

SAT Writing & Language

ข้อสอบ 44 ข้อ เวลาสอบ 35 นาที คะแนนเต็มรวม 800 คะแนน

SAT Math

(ใช้เครื่องคิดเลขได้) ข้อสอบ 38 ข้อ เวลาสอบ 38 นาที และ SAT Math (ห้ามใช้เครื่องคิดเลข) ข้อสอบ 20 ข้อ เวลาสอบ 25 นาที คะแนนเต็มรวม 800 คะแนน

เตรียมสอบ SAT ต้องทำยังไงบ้าง

น้อง ๆ ที่เตรียมสอบ SAT ควรต้องรู้ว่ามีเรื่องไหนที่ต้องทำนอกจากการสมัครตามขั้นตอนที่กำหนด และเข้าใจถึงคะแนนสอบที่ตนเองต้องได้จากการศึกษาข้อมูลจากมหาวิทยาลัยหรือคณะที่ตนเองต้องการเข้าเรียน ซึ่งคำแนะนำเบื้องต้น สามารถทตามได้ดังนี้

1. ศึกษารายวิชาที่ต้องใช้สอบ

ต้องรู้ก่อนว่าทั้งการสอบ SAT Math และ SAT Reading & Writing มีเนื้อเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อประเมินตนเองว่าจุดไหนที่ยังไม่ถนัด ยังมีข้อสงสัย แล้วมองหาวิธีในการเพิ่มเติมความรู้เพื่อโอกาสในการสอบและได้คะแนนตามเป้าหมาย

2. ฝึกทำข้อสอบเก่าหรือแบบฝึกหัดบ่อย ๆ

พยายามหาข้อสอบเก่า ๆ มาลองทำด้วยตนเอง ซึ่งปัจจุบันจะค้นจากอินเทอร์เน็ตก็ง่ายดายมาก หรือใครซื้อหนังสือเตรียมสอบแล้วลองทำแบบฝึกหัดท้ายบทก็ได้เช่นกัน แต่ย้ำว่าควรเป็นข้อสอบหรือแบบฝึกหัดที่หลากหลาย กระจายความเข้าใจอย่างเหมาะสม

3. สมัครคอร์สติวสอบ SAT 

อีกเทคนิคที่น้อง ๆ หลายคนนิยมทำนั่นคือสมัครคอร์สเรียน SAT เพื่อติวในทุกรายวิชา รวมถึงยังได้เทคนิคเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการสอบจากติวเตอร์อีกด้วย จะช่วยเพิ่มผลลัพธ์และคะแนนดี ๆ อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด

ติวสอบ SAT ฟรี Free SAT Practice Test

หากใครอยากเริ่มต้นศึกษาข้อมูลการสอบ SAT ด้วยตนเอง ก็มีคอร์ส SAT ฟรี มาแนะนำกันโดยจะเน้นเป็นรายวิชาภาษาอังกฤษเป็นหลัก 

ติวสอบSAT Reading ฟรี

ลองคลิกเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=AFKeBIonYp4 และ https://www.youtube.com/watch?v=cy7Lf9GqtJA 

ติวสอบSAT Writing ฟรี

ลองคลิกเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=WgqrB_YVO6I และ https://www.youtube.com/watch?v=Z-8_O4s35S8

การสอบ SAT ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับน้อง ๆ ที่อยากเข้าเรียนกับมสถาบันหรือคณะที่ตนเองตั้งเป้าหมายไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนในเมืองไทยหรือต่างประเทศก็ตาม ดังนั้นหากเตรียมตนเองมาครบถ้วน ตั้งแต่เรื่องการสมัคร การหาข้อมูล การฝึกทำข้อสอบต่าง ๆ จะช่วยให้คะแนน SAT ที่ออกมาตรงกับสิ่งที่คาดหวังไม่ยากเลย