IELTS คืออะไร ทำไมต้องสอบ พร้อมอัพเดทตารางสอบ IELTS 2025
IELTS หรือ International English Language Testing System เป็นอีกรูปแบบการทดสอบความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษที่มีความสำคัญและถูกนำไปใช้งานกันทั่วโลก ดังนั้นใครที่กำลังวางแผนอยากใช้คะแนนสอบดังกล่าวก็ต้องศึกษาข้อมูลอย่างครบถ้วนทุกด้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความมั่นใจได้อย่างเต็มที่
การสอบ IELTS คืออะไร ?
IELTS คือ การสอบวัดระดับความรู้และทักษะทางภาษาอังกฤษสำหรับประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ผ่านการยอมรับจากหลายประเทศทั่วโลก อาทิ อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ซึ่งการประเมินจะแบ่งออกเป็น 4 ทักษะ ได้แก่ การฟัง (Listening), การอ่าน (Reading), การเขียน (Writing) และการพูด (Speaking)
ทำไมต้องสอบ IELTS?
เป้าหมายสำคัญของผู้ที่เลือกสอบ IELTS เพื่อต้องการนำผลคะแนนที่ได้รับไปใช้ยื่นสมัครเรียนต่อต่างประเทศรวมถึงมหาวิทยาลัยอินเตอร์ หรือคณะที่เน้นภาษาอังกฤษเป็นหลัก รวมถึงยังสามารถใช้เพื่อยื่นสมัครงานกับบริษัทข้ามชาติ สมัครงานต่างประเทศ ขณะที่บางคนใช้งานเพื่อการย้ายถิ่นฐานก็ได้เช่นกัน
ใครบ้างที่ต้องสอบ IELTS ?
ทุก ๆ คนที่วางแผนต้องการเรียนต่อต่างประเทศที่เน้นใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักควรเลือกสอบ IELTS เพื่อนำคะแนนที่ได้ไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการยื่นสมัครเรียน หรือคนที่อยากสมัครเรียนในประเทศกับมหาวิทยาลัยอินเตอร์ สมัครเรียนกับคณะที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ ใช้สมัครงาน หรือย้ายถิ่นฐานก็สามารถสอบได้ เพราะการทดสอบนี้ไม่ได้กำหนดเกณฑ์อายุ
การสอบ IELTS มีกี่แบบ ?
IELTS มีทั้งหมด 2 แบบหลักๆ แต่ละแบบออกแบบมาให้เหมาะกับเป้าหมายที่แตกต่างกันของคนสอบ
1. IELTS Academic
เหมาะสำหรับ:
- เหมาะกับคนที่อยากไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศ
- คนที่จะเรียนหลักสูตรที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เช่น ป.ตรี ป.โท หรือ ป.เอก
ลักษณะเด่น:
- ข้อสอบจะออกแนววิชาการ
- ข้อสอบ Part Reading และ Part Writing จะเกี่ยวข้องกับบทความเชิงวิชาการ เช่น รายงานการวิจัย หรือบทความในวารสาร
2. IELTS General Training
เหมาะกับใคร?
- คนที่อยากย้ายไปอยู่ต่างประเทศหรือสมัครงานที่ใช้ภาษาอังกฤษ
จุดเด่น:
- ข้อสอบเน้นภาษาในชีวิตประจำวัน เช่น การเขียนจดหมาย อ่านประกาศ หรือข้อมูลทั่วไป
- ข้อสอบ Part Reading และ Part Writing จะเป็นเรื่องใกล้ตัว เช่น บทความจากนิตยสาร หรือโฆษณาในชีวิตประจำวัน
IELTS Academic vs General Training ต่างกันอย่างไร?
ก่อนเลือกสอบ IELTS ควรลองเช็กว่าจะต้องใช้คะแนนแบบไหน
- ถ้าจะเรียนต่อมหาวิทยาลัย → เลือก Academic
- ถ้าจะย้ายประเทศหรือสมัครงานทั่วไป → เลือก General Training
3. IELTS UKVI
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่ต้องการยื่นคะแนน IELTS เพื่อสมัครวีซ่าสหราชอาณาจักร (UK)
- คนที่ต้องการเรียน Pre-sessional Course ในมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร
ลักษณะเด่น:
- ข้อสอบมีมาตรฐานเหมือนกับ IELTS Academic และ General Training
- ผลสอบได้รับการรับรองจากรัฐบาลสหราชอาณาจักร (UKVI)
- เหมาะสำหรับการยื่นวีซ่าทั้งเพื่อการศึกษา การทำงาน และการย้ายถิ่นฐาน
4. IELTS Life Skills
เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการยื่นคะแนนภาษาอังกฤษเพื่อขอวีซ่าสหราชอาณาจักรแบบเฉพาะทาง
- ใช้สำหรับยื่นขอวีซ่าระดับครอบครัว หรือวีซ่าทำงานในระดับพื้นฐาน
จุดเด่น:
- การทดสอบเน้นเฉพาะ 2 ทักษะ: การฟัง (Listening) และการพูด (Speaking)
- ระดับการสอบแบ่งเป็น A1, A2, และ B1 ขึ้นอยู่กับประเภทวีซ่าที่ต้องการ
- เป็นการสอบที่เน้นการสื่อสารในชีวิตประจำวัน เช่น การแนะนำตัว หรือการพูดเกี่ยวกับสถานการณ์ทั่วไป
รูปแบบการสอบ IELTS มีกี่แบบ ?
การสอบ IELTS มีสองรูปแบบให้เลือก ได้แก่
- Paper-Based (การสอบด้วยกระดาษ)
- Computer-Delivered (การสอบผ่านคอมพิวเตอร์)
ซึ่งแต่ละรูปแบบมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไปตามความสะดวกและความถนัดของผู้สอบ
ข้อดีของการสอบ IELTS แบบ Paper-Based
เหมาะสำหรับผู้ที่ถนัดเขียนและอ่านบนกระดาษ ผู้สอบสามารถจดโน้ต ขีดเขียน หรือทำเครื่องหมายบนข้อสอบได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ยังมีเวลาพักระหว่างการสอบ Writing, Reading และ Speaking ซึ่งช่วยให้ผู้สอบได้เตรียมตัวก่อนการสอบในแต่ละพาร์ทได้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม การสอบรูปแบบนี้มีข้อเสียเช่นกัน เนื่องจากลายมือของผู้สอบอาจส่งผลต่อการให้คะแนน หากเขียนไม่ชัดเจน และระยะเวลารอผลสอบค่อนข้างนาน (ประมาณ 13 วัน)
ข้อดีของการสอบ IELTS แบบ Computer-Delivered
เหมาะสำหรับผู้ที่ถนัดพิมพ์และใช้งานคอมพิวเตอร์ได้คล่องแคล่ว
ข้อดีหลักของรูปแบบนี้คือมีรอบสอบให้เลือกมากกว่า และผลสอบออกเร็วกว่ามาก (เพียง 3-5 วัน)
นอกจากนี้ ในพาร์ท Writing ยังมีตัวนับจำนวนคำอัตโนมัติ ช่วยลดเวลาในการตรวจนับ
อย่างไรก็ตาม การสอบแบบคอมพิวเตอร์อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการอ่านหรือพิมพ์บนหน้าจอ และผู้สอบไม่สามารถขีดเขียนโน้ตบนข้อสอบได้เหมือนกับการสอบแบบกระดาษ
เปรียบเทียบเรื่องเวลาและการเตรียมสอบ IELTS แบบกระดาษและคอมพิวเตอร์
การสอบแบบ Computer-Delivered มีรอบสอบบ่อยกว่าและยืดหยุ่นกว่า เนื่องจากสามารถเลือกสอบได้ทั้งในช่วงเช้าและบ่าย ในขณะที่การสอบแบบ Paper-Based มักมีรอบสอบน้อยกว่าและจัดในวันเสาร์หรืออาทิตย์เท่านั้น การเตรียมตัวสำหรับการสอบแบบกระดาษควรฝึกการเขียนด้วยมือและการจัดลายมือให้อ่านง่าย ส่วนการสอบแบบคอมพิวเตอร์ควรฝึกพิมพ์ให้เร็วและลดข้อผิดพลาด
เปรียบเทียบเรื่องสถานที่สอบ IELTS แบบกระดาษและคอมพิวเตอร์
การสอบแบบ Paper-Based มีศูนย์สอบในหลายจังหวัด เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น และภูเก็ต โดยมีทั้งศูนย์สอบของ IDP และ British Council ส่วนการสอบแบบ Computer-Delivered มักจัดในศูนย์สอบที่มีอุปกรณ์ครบครัน เช่น International House (อโศก) สำหรับ IDP และ Westminster สำหรับ British Council ซึ่งศูนย์สอบแบบคอมพิวเตอร์อาจมีเฉพาะในเมืองใหญ่เท่านั้น
สรุป การเลือกสอบแบบไหนขึ้นอยู่กับความถนัดและความสะดวกของแต่ละคน หากถนัดเขียนและอ่านบนกระดาษ หรือมีเวลาเตรียมตัวมาก การสอบแบบ Paper-Based อาจตอบโจทย์ แต่หากต้องการผลสอบเร็ว หรือถนัดใช้งานคอมพิวเตอร์ การสอบแบบ Computer-Delivered จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดค่ะ!
ข้อสอบ IELTS ออกสอบอะไรบ้าง?
IELTS Listening
ระยะเวลา: 30 นาที (บวก 10 นาทีสำหรับผู้สอบ Paper-Based)
จำนวนคำถาม: 40 คำถาม
ข้อสอบ Listening ประกอบด้วย 4 Sections โดยผู้สอบจะได้ยินบทสนทนาหรือบทพูดเพียงครั้งเดียว และคำถามจะเน้นวัดทักษะการฟังจับใจความสำคัญและรายละเอียด
รายละเอียดแต่ละ Section:
- Section 1
- บทสนทนาระหว่าง 2 คน
- เนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน เช่น การจองโรงแรม หรือการจัดกิจกรรม
- Section 2
- การพูดคนเดียว
- เนื้อหากึ่งทางการ เช่น การอธิบายสถานที่ หรือขั้นตอนการใช้งาน
- Section 3
- บทสนทนา 3-4 คน
- เนื้อหาเกี่ยวกับการศึกษา เช่น การถกเถียงในหัวข้อวิชาการ
- Section 4:
- การพูดคนเดียว
- เนื้อหาวิชาการ เช่น การบรรยายในมหาวิทยาลัย
รูปแบบคำถาม:
- การเติมคำ (Fill-in the Blanks)
- การจับคู่ (Matching Information)
- คำถามแบบหลายตัวเลือก (Multiple Choice)
ตัวอย่างข้อสอบ IELTS Listening :
- Section 1: Social Context
- Example Question: You hear a conversation about booking a hotel room. Complete the form:
- Guest name: __________
- Check-in date: __________
- Special requests: __________
- Section 2: Informational Talk
- Example Question: Label the map below based on the speaker's description.
- Section 3: Academic Discussion
- Example Question: Choose the correct answer:
- What is the main reason for the decline in student satisfaction? A) Lack of facilities B) Overcrowded lectures C) Inadequate feedback
เทคนิคทำข้อสอบ:
- อ่านคำถามล่วงหน้าก่อนเสียงเริ่มเล่น
- จับใจความสำคัญและฟังคำที่เน้นย้ำในบทสนทนา
IELTS Reading
ระยะเวลา: 60 นาที
จำนวนคำถาม: 40 คำถาม
รูปแบบข้อสอบ :
- Academic:
- ประกอบด้วยบทความ 3 เรื่อง
- เนื้อหาเชิงวิชาการ เช่น บทความจากวารสาร หรือรายงานการวิจัย
- General Training:
- Section 1: ข้อความสั้น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เช่น ประกาศหรือโฆษณา
- Section 2: ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน เช่น คู่มือการทำงาน
- Section 3: บทความยาว เนื้อหากว้างขวางเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไป
รูปแบบคำถาม:
- การจับคู่หัวข้อกับเนื้อหา (Matching Headings)
- การตอบคำถามแบบสั้น (Short Answer)
- การเติมคำในช่องว่าง (Sentence Completion)
- การระบุ True/False/Not Given
ตัวอย่างข้อสอบ IELTS Reading :
Academic Test:
- Example Question Type: True/False/Not Given
- "The average global temperature has risen by 2°C in the past century." (True / False / Not Given)
- Matching Headings:
- Match the following headings to paragraphs:
- Paragraph A: The impact of urbanization
- Paragraph B: Efforts to reduce carbon emissions
- Paragraph C: Technological advancements in renewable energy
General Training Test:
Example Question Type: Fill in the blanks
The community center opens at _________ and closes at _________ on weekdays.
เทคนิคทำข้อสอบ:
- ฝึกอ่านแบบ Skimming และ Scanning
- ขีดเส้นใต้คำสำคัญในคำถาม
IELTS Writing
ระยะเวลา: 60 นาที
จำนวนงานเขียน: 2 งาน
รายละเอียดแต่ละ Task:
- IELTS Writing Task 1:
- Academic: ให้ผู้สอบอธิบายข้อมูลในรูปแบบกราฟ ตาราง แผนภูมิ หรือแผนภาพ
- General Training: ให้เขียนจดหมายตามสถานการณ์ที่กำหนด เช่น จดหมายร้องเรียน จดหมายแนะนำ
- IELTS Writing Task 2:
- ผู้สอบต้องเขียนเรียงความเพื่อแสดงความคิดเห็น หรือวิเคราะห์ประเด็นที่โจทย์กำหนด
- หัวข้อที่พบบ่อย เช่น การศึกษา เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม
ตัวอย่างข้อสอบ IELTS Writing
IELTS Writing Task 1: Academic
Example Prompt:The graph below shows the number of international students enrolled in three different countries from 2000 to 2020. Summarize the information by selecting and reporting the main features and make comparisons where relevant.
IELTS Writing Task 1: General Training
Example Prompt: You recently moved into a new apartment and discovered some issues with the heating system. Write a letter to your landlord. In your letter:1) Explain the problem 2)Describe how it affects you 3) Suggest a solution
IELTS Writing Task 2 : Opinion Essay
Example Prompt:Some people believe that it is better to work for one company throughout your career. Others think that changing jobs frequently provides more benefits. Discuss both views and give your opinion.
เทคนิคทำข้อสอบ:
- สำหรับ Task 1: เน้นโครงสร้างการเขียน เช่น Introduction, Overview, และ Details
- สำหรับ Task 2: วางแผนก่อนเขียน แบ่งบทความออกเป็น Introduction, Body, และ Conclusion
IELTS Speaking
ระยะเวลา: 11-14 นาที
จำนวนข้อสอบ: 3 พาร์ท
การสอบ Speaking เป็นการวัดทักษะการพูดภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัวกับ Examiner
รายละเอียดแต่ละ Part:
- Part 1: Introduction & Interview (4-5 นาที)
- คำถามเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน เช่น การเรียน งานอดิเรก ครอบครัว
- Part 2: Individual Long Turn (3-4 นาที)
- ผู้สอบจะได้รับ Cue Card และมีเวลาเตรียมตัว 1 นาที ก่อนพูดตามหัวข้อที่กำหนด
- Part 3: Discussion (4-5 นาที)
- การพูดเชิงวิเคราะห์และตอบคำถามที่ลึกซึ้งขึ้น โดยต่อเนื่องจากหัวข้อใน Part 2
ตัวอย่างข้อสอบ:
- Part 1: What do you do in your free time?
- Part 2: Describe a memorable trip you have taken.
-
Part 3: What are the benefits of traveling to other countries?
เทคนิคทำข้อสอบ:
- พูดให้คล่อง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสำเนียง
- ฝึกใช้คำศัพท์ที่หลากหลาย และแสดงความเห็นเชิงลึกใน Part 3
ค่าสอบ IELTS เท่าไร ?
ค่าสอบ IELTS British Council เท่าไร?
ค่าสอบ IELTS British Council จะขึ้นอยู่กับประเภทการสอบที่ผู้สมัครได้เลือกเอาไว้ แบ่งเป็นรายละเอียด ดังนี้
- IELTS Academic (Paper / Computer) ค่าสอบ 7,100 บาท
- IELTS General Training (Paper / Computer) ค่าสอบ 7,100 บาท
- IELTS for UKVI ทั้งแบบ Academic และ General Training (Paper / Computer) ค่าสอบ 7,710 บาท
- IELTS Life Skills (A1 และ B1) ค่าสอบ 5,800 บาท
ค่าสอบ IELTS IDP เท่าไร?
ค่าสอบ ELTS IDP ก็ขึ้นอยู่กับประเภทการสอบที่ผู้สมัครเลือกเอาไว้เช่นกัน แบ่งเป็นรายละเอียด ดังนี้
- IELTS Regular (Paper / Computer) ค่าสอบ 7,350 บาท
- IELTS UKVI (Paper / Computer) ค่าสอบ 7,710 บาท
- IELTS Life Skills ค่าสอบ 5,800 บาท
สมัครสอบ IELTS แบบ Step-by-Step
สมัครสอบ IELTS British Council แบบ Step-by-Step
สถาบัน British Council คือหนึ่งในสถาบันที่มีการเปิดให้สอบ IELTS ดำเนินการโดยตรงจากประเทศอังกฤษ ซึ่งขั้นตอนการสมัครสอบไม่ยุ่งยาก ทำตามนี้ได้เลย
- เข้าไปยังหน้าเว็บไซต์ https://www.britishcouncil.or.th/
- เลือกแถบด้านบน “การสอบ” และเลือก “IELTS”
- เลื่อนลงมาด้านขวามือจะเจอหัวข้อ “การสมัครสอบ” คลิกเข้าไปได้เลย
- เลือกประเภทการสอบที่ตนเองต้องการ ได้แก่ IELTS Academic, IELTS General Training, IELTS for UKVI, IELTS Life Skills จากนั้นกด “ค้นหาและสมัครสอบ”
- ยืนยันประเภทการสอบที่ต้องการ เลือกประเทศ สถานที่สอบ วัน-เวลา กรอกรายละเอียดตามที่หน้าเว็บระบุให้ครบถ้วน
- ทำการชำระเงินให้เรียบร้อย
สมัครสอบ IELTS IDP แบบ Step-by-Step
สถาบัน IELTS IDP เป็นอีกแห่งที่มีการเปิดสอบ IELTS ดำเนินการตรงจากประเทศออสเตรเลีย สามารถสมัครได้ตามขั้นตอน ดังนี้
- เข้าไปยังหน้าเว็บไซต์ https://ielts.idp.com/book
- ลือกประเภทการสอบที่ตนเองต้องการ แบ่งเป็น
- IELTS Regular (Academic & General Training) เลือก “Registration for IELTS test”
- IELTS UKVI (Academic & General Training & Life Skills) เลือก “IELTS test for UKVI”
- เลือกประเทศ ประเภทการสอบ สถานที่สอบ วัน-เวลาสอบ
- กรอกรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบถ้วนพร้อมอัปโหลดเอกสาร (สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาพาสปอร์ต)
- ทำการชำระเงินให้เรียบร้อยภายใน 24 ชม. จากนั้นจะได้รับอีเมลยืนยัน
สถานที่สอบ IELTS
IELTS British Council สอบที่ไหน ?
สถานที่สอบ IELTS British Council แบ่งออกได้หลายจังหวัดขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้สอบที่จะเดินทางไป อย่างไรก็ตามเพื่อสร้างความมั่นใจและการวางแผนที่เหมาะสม จึงขอแนะนำสถานที่สอบซึ่งได้รับความนิยมจากผู้สอบจำนวนมาก
- British Council Siam Square ซอย จุฬา 64 สยามสแควร์ กรุงเทพ
IELTS IDP สอบที่ไหน ?
สำหรับสถานที่สอบของ IELTS IDP สามารถแบ่งออกได้ตามจังหวัดที่ผู้สมัครสะดวกเดินทาง ซึ่งแต่ละปีอาจมีการกำหนดแตกต่างกันออกไป สามารถเช็กข้อมูลได้ในระหว่างทำการสมัคร อย่างไรก็ตามจะขอแนะนำสถานที่สอบซึ่งได้รับความนิยมจากผู้สอบจำนวนมาก
- ชั้น 4 อาคาร CP Tower ถนนสีลม กรุงเทพ
- ชั้น 12A อาคาร Siam Piwat Tower ถนนพระราม 1 กรุงเทพ
- Shrewsbury International School ถนนเจริญกรุง เขตบางคอแหลม กรุงเทพ
- ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 14 ถนนราชดำริ เขตปทุมวัน กรุงเทพ
IELTS คะแนนเต็มเท่าไหร่? ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
คะแนนเต็ม IELTS อยู่ที่ 9.0 แบนด์ โดยข้อสอบจะวัด 4 ทักษะ คือ ฟัง (Listening), พูด (Speaking), อ่าน (Reading), เขียน (Writing) ซึ่งแต่ละทักษะให้คะแนนตั้งแต่ 1.0 - 9.0 และคำนวณคะแนนรวมเป็นค่าเฉลี่ยที่เรียกว่า Overall Band Score
คะแนน IELTS แต่ละแบนด์บอกอะไร?
- Band 9: ใช้ภาษาอังกฤษได้ดีเยี่ยม คล่องสุด ๆ ไม่มีจุดผิดพลาด
- Band 8: ใช้ภาษาได้คล่องมาก แต่ยังมีผิดเล็กน้อยในบางสถานการณ์
- Band 7: ใช้ภาษาได้ดี เข้าใจภาษาอังกฤษซับซ้อน แต่มีผิดพลาดในบางครั้ง
- Band 6: ใช้ภาษาได้โอเค เข้าใจดีในเรื่องที่คุ้นเคย แต่มีผิดพลาดบ้าง
- Band 5: ใช้ภาษาได้ระดับกลาง ๆ เข้าใจพื้นฐานได้ แต่ยังผิดพลาดบ่อย
- Band 4: ใช้ภาษาได้ในเรื่องง่าย ๆ แต่ยังมีปัญหาในเรื่องซับซ้อน
- Band 3-1: ใช้ภาษาได้จำกัดมากหรือแทบไม่ได้เลย
คะแนน IELTS ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
คะแนน IELTS ใช้เรียนต่อ
ส่วนใหญ่มหาวิทยาลัยจะรับคะแนน 6.0 ขึ้นไป แต่บางที่อาจต้องการมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ของแต่ละมหาวิทยาลัย:
คะแนน IELTS ใช้สมัครงาน
หลายบริษัทในไทย เช่น CP, Toyota, และธนาคารต่าง ๆ รับคะแนน IELTS เป็นส่วนหนึ่งในการสมัครงาน ช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งาน อัพเงินเดือน หรือเลื่อนตำแหน่ง
คะแนน IELTS ใช้ย้ายประเทศ
- ใช้ได้ทั้ง General Training, UKVI, หรือ Life Skills
- ใช้สำหรับยื่นขอวีซ่าทำงาน หรือย้ายถิ่นฐานไปประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ เช่น อังกฤษ ออสเตรเลีย หรือในกลุ่มยุโรป
ผลสอบ IELTS ออกเมื่อไร?
- ผลสอบ IELTS Online จะมีผลเบื้องต้นทันทีหลังสอบเสร็จ และผลอย่างเป็นทางการจะออกภายใน 3-5 วัน
- ผลสอบ IELTS แบบ Computer-Delivered จะออกภายใน 5-8 วัน
- ผลสอบ IELTS แบบ Paper-Based จะออกภายใน 13 วัน
การสอบ IELTS ยากไหม
การสอบ IELTS ค่อนข้างยาก สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษที่ดีหรือไม่ได้เตรียมตัว แต่ ไม่ยาก หากมีการฝึกฝนอย่างถูกต้องและรู้แนวข้อสอบล่วงหน้า!
ความท้าทายของ IELTS
1. IELTS Listening:
- ต้องจับใจความจากสำเนียงที่หลากหลาย เช่น British, American, หรือ Australian
- การฟังแบบ one-time-only ไม่มี replay
2. IELTS Reading:
- มีบทความที่ใช้ภาษาเชิงวิชาการ (Academic) หรือเชิงข้อมูลทั่วไป (General Training) ซึ่งบางคนอาจมองว่ายากเพราะมีคำศัพท์เฉพาะทางและเวลาในการทำข้อจำกัด
3. IELTS Writing:
- Task 1 ต้องวิเคราะห์ข้อมูล เช่น กราฟหรือแผนภาพ (Academic) หรือเขียนจดหมาย (General Training)
- Task 2 ต้องเขียนเรียงความที่ต้องมีเหตุผลและโครงสร้างดี
4. IELTS Speaking:
- การตอบคำถามแบบตัวต่อตัวกับผู้สอบ อาจกดดันหากไม่คุ้นชิน
ถ้ายังรู้สึกกังวล ลองเริ่มด้วยการทำแบบทดสอบออนไลน์เพื่อประเมินตัวเองก่อนก็ได้ค่ะ 😊
ถ้าสนใจติว IELTS แบบไม่มีพื้นฐาน ทาง Chulatutor ก็มีคอร์สที่ออกแบบให้เริ่มจากศูนย์เหมาะกับทุกระดับเลยนะคะ! 😍
เตรียมตัวสอบ IELTS
1. ประเมินทักษะความถนัดของตนเองก่อนสมัครสอบ IELTS Test
ผู้สอบต้องประเมินก่อนว่าตนเองถนัดและไม่ถนัดข้อสอบในด้านไหนบ้าง เพราะการสอบ IELTS แบ่งออกเป็น 4 พาร์ทใหญ่ ได้แก่ การฟัง การพูด การเขียน และการอ่าน เพื่อจะได้เตรียมตัววางแผนค้นหาข้อมูลและฝึกทำข้อสอบได้อย่างเหมาะสม
2. ลองทำข้อสอบเก่า IELTS
ขั้นต่อมาให้ลองทำข้อสอบเก่า ๆ ที่เคยใช้สอบในครั้งก่อน เพื่อเป็นการวัดความรู้พื้นฐาน และยังช่วยเพิ่มความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับเนื้อหาการสอบด้วยว่าปกติแล้ว IELTS มักออกข้อสอบแบบใด และมีตรงไหนที่ตนเองต้องรีบปรับปรุงเป็นการด่วน
3. ค้นหาแบบฝึกหัด IELTS Test แล้วลองทำควบคู่ไปด้วย
นอกจากข้อสอบเก่าแล้วยังแนะนำให้หาแบบฝึกหัดที่เกี่ยวข้องกับการสอบ IELTS จากนั้นก็ทำเพิ่มเติมเข้าไป จะช่วยให้เข้าใจเนื้อหาได้มากกว่าเดิม และที่สำคัญแบบฝึกหัดเหล่านี้ก็เหมือนข้อสอบดี ๆ ที่ฝึกทักษะให้เก่งมากขึ้นด้วย
4. หาคอร์สติว IELTS เพื่อศึกษาเทคนิคในการสอบ
ไม่ว่าจะเป็นคอร์สติวออนไลน์ฟรีบนเว็บไซต์ หรือการเข้าเรียนคอร์สเฉพาะทางสำหรับ IELTS ก็เป็นเรื่องดีมาก ๆ เพราะจะช่วยให้ทุกคนเข้าใจเนื้อหาพร้อมรู้เทคนิคที่สามารถนำไปปรับระหว่างทำข้อสอบได้จริง โอกาสทำคะแนนสูงมากขึ้น
5. ฝึกทำข้อสอบ IELTS ตามสถานการณ์จริง
ท้ายที่สุดเมื่อมั่นใจว่าตนเองเริ่มมีทักษะมากพอแล้ว ต้องลองฝึกทำข้อสอบแบบเดียวกับสถานการณ์จริงระหว่างสอบ หรือคล้ายกับการจำลองทำข้อสอบนั่นเอง เพื่อเวลาเจอของจริงแล้วจะได้ไม่กดดัน หรือเครียดมากเกินไป
รีวิว การสอบ IELTS
ตารางสอบ IELTS British Council 2025
สำหรับผู้ที่เลือกสอบกับ IELTS British Council สามารถเข้าไปเช็กข้อมูลวัน-เวลา และตารางสอบได้ผ่านช่องทางเว็บไซต์ https://www.britishcouncil.or.th/exam/ielts/dates-fees-locations ซึ่งทางศูนย์สอบจะมีการระบุข้อมูลเอาไว้ครบถ้วนทั้งการสอบแบบกระดาษและการสอบคอมพิวเตอร์ แต่ละเดือนจะมีการจัดสอบแตกต่างกันออกไป
ตารางสอบ IELTS IDP 2025
คนที่เลือกสอบ IELTS IDP สามารถเข้าไปเช็กข้อมูลวัน-เวลา และตาราสอบได้บนหน้าเว็บไซต์ของศูนย์สอบ https://ielts.idp.com/thailand/about/ielts-on-paper-2025-thailand/th-th หรือสามารถเช็กได้จากขั้นตอนการสมัครสอบของแต่ละศูนย์ว่ายังมีวัน-เวลา ว่างเมื่อไหร่บ้าง
เทคนิคเตรียมตัวสอบ IELTS ใน 1 เดือน: แผนการเตรียมตัวรายสัปดาห์
สัปดาห์ที่ 1: ทำความเข้าใจโครงสร้างข้อสอบและประเมินตนเอง
- ศึกษาโครงสร้างข้อสอบ: อ่านข้อมูลเกี่ยวกับพาร์ท Listening, Reading, Writing และ Speaking ให้ละเอียด
- ลองทำข้อสอบเบื้องต้น: ใช้ Mock Test เพื่อวัด Band คะแนนเบื้องต้น และระบุจุดอ่อนของตัวเอง
- วางเป้าหมาย Band คะแนน: กำหนดคะแนนที่ต้องการในแต่ละพาร์ท
สัปดาห์ที่ 2: ตะลุย Listening และ Reading
- Listening: ฝึกทำข้อสอบวันละ 1 ชุด พร้อมฟังซ้ำเพื่อจับคำศัพท์และสำเนียง
- Reading: ฝึกอ่านบทความสั้นและยาวจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น บทความวิทยาศาสตร์, เศรษฐกิจ
- เพิ่มคลังคำศัพท์: จดคำศัพท์ใหม่ที่พบในข้อสอบหรือการฝึกฝน พร้อมหาความหมายและ Synonym
สัปดาห์ที่ 3: โฟกัส Writing และ Speaking
- Writing Task 1: ฝึกเขียนสรุปข้อมูลจากกราฟ แผนภูมิ หรือแผนภาพ
- Writing Task 2: ฝึกเรียงความตามหัวข้อที่พบบ่อย เช่น การศึกษา เทคโนโลยี
- Speaking: ซ้อมตอบคำถาม Part 1, 2 และ 3 กับเพื่อนหรือแอปพลิเคชัน เช่น IELTS Speaking Partner
สัปดาห์ที่ 4: ทดลองสอบเสมือนจริง
- ทำข้อสอบเต็มรูปแบบ: ตั้งเวลาจริงและทำครบทุกพาร์ท เพื่อประเมินการบริหารเวลา
- ฝึกแก้จุดอ่อน: ทบทวนข้อผิดพลาดที่พบใน Mock Test และพยายามปรับปรุง
-
พักผ่อนให้เพียงพอ: ลดความเครียดโดยการจัดตารางพักผ่อนและออกกำลังกายเบา ๆ
ดาวน์โหลด หนังสือ เตรียมสอบ IELTS ฟรี
- Achieve IELTS Practice Test Book (คลิก Download แล้วเริ่มเตรียมสอบได้เลย!)
- Best Practice Book for IELTS Writing (โหลดฟรี! อ่านเตรียมสอบได้ทันที)
- IELTS Advance Writing Skills (คลิกเพื่อดาวน์โหลด แล้วพร้อมลุยสอบ!)
- IELTS Band 9 Vocab Secrets – Your Key To Band 9 Topic Vocabulary (ดาวน์โหลดเลย! เตรียมตัวให้พร้อมในคลิกเดียว)
- IELTS Reading (Academic) Actual Tests With Answers (พร้อมสอบ? คลิกโหลดอ่านได้เลย!)
- IELTS Speaking Success Skills Strategies and Model Answers (คลิก Download แล้วจัดการข้อสอบได้ง่ายๆ)
-
IELTS Listening Practice Test (โหลดเลย! อ่านเตรียมสอบพร้อมลุยทันที)
เคล็ดลับสอบ Speaking กับ Native Examiner: ทำอย่างไรให้มั่นใจในวันสอบ?
-
สร้างความคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ
- ฟัง Podcast หรือดูซีรีส์ภาษาอังกฤษเป็นประจำ เพื่อฝึกสำเนียงและการออกเสียง
- ฝึกตอบคำถามทั่วไป เช่น การแนะนำตัว งานอดิเรก หรือสถานที่โปรด เพื่อให้การพูดเป็นธรรมชาติ
- เตรียมตัวให้พร้อมกับ Cue Card
- ฝึกตอบคำถาม Part 2 โดยจับเวลา 1 นาทีสำหรับเตรียมตัว และพูดต่อเนื่อง 2 นาที
- ใช้โครงสร้าง 3 ส่วน: Introduction, Details, Conclusion เพื่อให้คำตอบดูมีระบบ
- เทคนิคไม่ให้ตื่นเต้น
- ยิ้มและสบตา: ช่วยสร้างความประทับใจแรกพบ
- หายใจลึก ๆ: ก่อนตอบคำถาม เพื่อผ่อนคลายความกังวล
- ตอบอย่างมั่นใจ: แม้จะตอบผิด แต่พยายามพูดต่อโดยไม่หยุดกะทันหัน
- ใช้คำศัพท์ให้หลากหลาย
- แทนที่จะใช้คำง่าย เช่น good ให้ลองใช้คำว่า excellent, outstanding, remarkable
- ใช้ Collocations (การจับคู่คำศัพท์) เช่น make progress, take responsibility
- เติมเต็มคำตอบอย่างมีเนื้อหา
- อย่าตอบสั้น ๆ เช่น "Yes, I like it." ให้ขยายคำตอบ เช่น "Yes, I like it because it’s refreshing and helps me stay productive throughout the day."
- ใช้ตัวอย่างและประสบการณ์ส่วนตัวช่วยขยายคำตอบ เช่น "For example, when I was in college, I often..."
- ฝึกพูดด้วยตัวเอง
- บันทึกเสียงหรือวีดีโอตัวเองเพื่อตรวจสอบจุดอ่อน เช่น การออกเสียงหรือการหยุดชะงัก
- พูดกับเพื่อนหรือครูผู้สอนที่เป็นเจ้าของภาษา เพื่อรับคำแนะนำ
- เตรียมคำถามเชิงลึกใน Part 3
- ฝึกวิเคราะห์คำถาม เช่น "Do you think technology affects relationships?" พร้อมให้เหตุผลและตัวอย่าง
- ใช้ประโยคเชื่อมโยง เช่น In my opinion, However, Moreover, On the other hand
ด้วยเทคนิคเหล่านี้ จะช่วยให้พร้อมสอบ Speaking กับ Native Examiner อย่างมั่นใจ และมีโอกาสได้ Band สูงขึ้นแน่นอนค่ะ! 😊
ติว IELTS ออนไลน์
คอร์สติว IELTS ออนไลน์ สอนตั้งแต่พื้นฐานถึง ข้อสอบรอบล่าสุด เหมาะสำหรับคนที่กำลังจะสอบ IELTS