TU-GET คืออะไร อยากเข้าเรียนธรรมศาสตร์ต้องทำความเข้าใจให้ครบ
TU-GET หรือ Thammasat University General English Test เป็นข้อสอบอีกประเภทที่ได้รับความนิยมมากสำหรับคนที่วางแผนเข้าเรียนต่อกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เนื้อหาส่วนใหญ่จะเน้นทดสอบภาษาอังกฤษ ดังนั้นใครที่สนใจ ต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม มาอ่านรายละเอียดทางนี้ได้เลย มีบอกครบถ้วนทั้งหมด
TU-GET คืออะไร ?
TU-GET คือ รูปแบบการทดสอบความรู้ ทักษะในด้านภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สำหรับผู้ที่ต้องการนำคะแนนไปใช้ยื่นสมัครเรียนต่อกับทางสถาบันตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไป ส่วนมากจะใช้กับหลักสูตรนานาชาติ แต่ก็มีหลายคณะที่นำคะแนนดังกล่าวมาใช้เป็นส่วนหนึ่งเพื่อการประเมินด้วย
ทำไมต้องสอบ TU-GET ?
การสอบ TU-GET เสมือนเป็นแนวทางเบื้องต้นที่ทางคณะนั้น ๆ จะใช้ประเมินผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาต่อว่ามีความรู้ด้านภาษาอังกฤษมากน้อยเพียงใด เพิ่มโอกาสในการต่อยอดรายวิชาต่าง ๆ และสำเร็จการศึกษาได้ตามเป้าหมายที่คาดหวังไว้
ใครบ้างที่ต้องสอบ TU-GET ?
คนที่สนใจเข้าเรียนต่อกับทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยเฉพาะคนที่วางแผนเข้าเรียนหลักสูตรนานาชาติ รวมถึงอีกหลายคณะที่มีการกำหนดไว้ว่าต้องใช้คะแนน TU-GET จึงจำเป็นต้องทำการทดสอบเพื่อนำคะแนนที่ได้ไปยื่นเป็นส่วนหนึ่งของการสมัครเรียน
TU-GET PBT คือ
TU-GET PBT คือ รูปแบบการสอบ TU-GET ด้วยการใช้กระดาษ Paper Based ฝนข้อตอบที่ถูกต้องลงไป เพื่อประเมินทักษะและความรู้ในด้านภาษาอังกฤษตามแนวทางของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
TU-GET CBT คือ
TU-GET CBT คือ รูปแบบการสอบ TU-GET ด้วยการใช้คอมพิวเตอร์ตอบคำถาม Computer Based เพื่อประเมินทักษะและความรู้ในด้านภาษาอังกฤษตามแนวทางของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เปรียบเทียบ TU-GET PBT VS TU-GET CBT
1. รูปแบบการสอบ TU-GET PBT VS TU-GET CBT
TU-GET PBT เป็นการสอบโดยใช้กระดาษคำตอบ ผู้สอบต้องฝนคำตอบที่ถูกต้องลงไป Paper Based Test
TU-GET CBT เป็นการสอบโดยใช้คอมพิวเตอร์ตอบคำถาม Computer Based Test
2. เนื้อหาการสอบ TU-GET PBT VS TU-GET CBT
TU-GET PBT ข้อสอบจะแบ่งออกเป็น 3 พาร์ท ในด้านภาษาอังกฤษ ได้แก่ Grammar (ไวยากรณ์), Vocabulary (คำศัพท์) และ Reading (การอ่าน)
TU-GET CBT ข้อสอบจะแบ่งออกเป็น 4 พาร์ท ในด้านภาษาอังกฤษ ได้แก่ Reading (การอ่าน), Listening (การฟัง), Writing (การเขียน) และ Speaking (การพูด)
3. คะแนนสอบ TU-GET PBT VS TU-GET CBT
TU-GET PBT จะมีคะแนนรวม 1,000 คะแนน แยกเป็น Grammar และ Vocabulary พาร์ทละ 250 คะแนน และ Reading 500 คะแนน
TU-GET CBT จะมีคะแนนรวม 120 คะแนน แบ่งออกเป็นพาร์ทละ 30 คะแนน
4. ประกาศผลสอบ TU-GET PBT VS TU-GET CBT
TU-GET PBT ผลสอบออกผ่านออนไลน์ภายใน 3 วัน และมีการจัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์ 1 สัปดาห์ หลังสอบ
TU-GET CBT ผลสอบออกผ่านออนไลน์ภายใน 15 วัน และมีการจัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์ 1 สัปดาห์ หลังสอบ
5. การสมัครสอบ TU-GET PBT VS TU-GET CBT
TU-GET PBT สมัครสอบได้ทาง http://tuget.litu.tu.ac.th/pbt เปิดรับสมัครทุกวันที่ 1-10 ของทุกเดือน และจะทำการสอบช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือน
TU-GET CBT สมัครสอบได้ทาง http://tuget.litu.tu.ac.th/cbt เปิดรับสมัครทุกวันที่ 11-15 ของทุกเดือน และจะทำการสอบช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือน
6. ค่าสอบ TU-GET PBT VS TU-GET CBT
TU-GET PBT มีค่าใช้จ่ายครั้งละ 500 บาท กรณีสมัครช้าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเป็น 700 บาท และต้องสมัครที่สถาบันเท่านั้น
TU-GET CBT มีค่าใช้จ่ายครั้งละ 1,500 บาท กรณีสมัครช้าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเป็น 1,700 บาท และต้องสมัครที่สถาบันเท่านั้น
เตรียมตัวสอบ TU-GET
1. ประเมินทักษะด้านภาษาอังกฤษขอบตนเอง
ด้วยการเป็นข้อสอบที่วัดความรู้ด้านภาษาอังกฤษ ผู้ที่จะสอบ TU-GET จึงต้องมีการประเมินทักษะของตนเองให้พร้อมก่อนว่าถนัดในด้านใด และยังขาดทักษะเรื่องไหนอยู่บ้าง เพื่อจะได้วางแผนหาความรู้ต่าง ๆ เพิ่มเติม เพื่อช่วยให้การสอบผ่านง่ายขึ้น
2. ทำแบบฝึกหัดและข้อสอบเก่าบ่อย ๆ
เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก การทำข้อสอบเก่าและแบบฝึกหัดทบทวนเป็นประจำจะช่วยให้เกิดความเข้าใจ รู้แนวทางข้อสอบ และสไตล์ของคำถามได้อย่างละเอียดมากขึ้น และยังสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมอื่นที่ตนเองยังไม่ค่อยเก่งเสริมเข้าไปได้ ยิ่งช่วงใกล้สอบแนะนำให้ทำข้อสอบหรือแบบฝึกหัดพร้อมการจับเวลาจริง
3. หาความรู้ภาษาอังกฤษเพิ่มเติม
ไม่ว่าจะเป็นการอ่านบทความ นิตยสาร หนังสือ หรืออื่นใดก็ได้แต่เน้นเป็นภาษาอังกฤษ การดูซีรี่ย์ การ์ตูน สารคดี กีฬา ก็ปรับเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ทำให้สิ่งเหล่านี้อยู่ในชีวิตรอบตัว จะช่วยเพิ่มความเข้าใจ และใช้งานได้คล่องมากขึ้น
4. ติวสอบกับคอร์สเรียนพิเศษ
มองหาคอร์ส TU-GET เพื่อติวสอบให้กับตนเอง จะเป็นคอร์สฟรีออนไลน์หรือคอร์สเสียเงินก็ไม่มีปัญหา ซึ่งข้อดีของการเรียนกับติวเตอร์จะช่วยให้ทุกคนมีเทคนิคเพิ่มเติมดี ๆ เพื่อเอาไว้ใช้สอบได้ รวมถึงยังได้เน้นย้ำกับเนื้อหาหลักที่มักออกสอบบ่อย มีทักษะและความรู้เพิ่มเติมมากขึ้น
Example Featured Products
Showcase other available courses, bundles, and coaching products you’re selling with the Featured Products block to provide alternatives to visitors who may not be interested in this specific product.