TOEFL คืออะไร
TOEFL คือ ข้อสอบภาษาอังกฤษตามแบบมาตรฐานของอเมริกัน ย่อมาจาก Test of English as a Foreign Language ข้อสอบประกอบไปด้วยพาร์ทการฟัง (Listening) การอ่าน (Reading) การเขียน (Writing) และการพูด (Speaking) ซึ่งจะมีการสอบครบทั้ง 4 พาร์ทนี้ หรือมีสอบแค่เป็นบางพาร์ทก็จะขึ้นอยู่กับประเภทของการสอบ TOEFL สำหรับคะแนนสอบก็จะต่างกันด้วยเช่นกัน กรรีเป็นการสอบ TOEFL iBT จะมีคะแนนเต็ม 120 คะแนน แต่หากเป็น TOEFL ITP จะมีคะแนนเต็ม 677 คะแนน ซึ่งการสอบ TOEFL ทั้งสองแบบ จะมีเนื้อหาข้อสอบไม่เหมือนกัน และคะแนนสอบ TOEFL ทั้งสองตัวมีอายุ 2 ปี
TOEFL มีกี่แบบ
TOEFL iBT เป็นการทำข้อสอบ TOEFL แบบคอมพิวเตอร์ที่ศูนย์สอบ ซึ่งเป็นข้อสอบที่ถูกพัฒนามาจาก TOEFL CBT ในอดีต โดยข้อสอบจะมีทั้งหมด 4 พาร์ท คือ พาร์ทการฟัง (Listening) การอ่าน (Reading) การเขียน (Writing) และการพูด (Speaking) ซึ่งการพูดก็จะเป็นการพูดกับคอมพิวเตอร์
TOEFL ITP เป็นการทำข้อสอบ TOEFL แบบกระดาษที่ศูนย์สอบ ประกอบไปด้วย 3 พาร์ท คือ พาร์ทการฟัง (Listening Comprehension) ไวยกรณ์ (Structure and Written Expression) และอ่าน (Reading Comprehension) ซึ่งข้อสอบจะเป็นแบบเลือกตอบทั้งหมด
TOEFL CBT เป็นการสอบ TOEFL แบบคอมพิวเตอร์ โดยข้อสอบนี้ได้ถูกพัฒนาทั้งระบบและเนื้อหาข้อสอบ กลายมาเป็น TOEFL iBT ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
TOEFL PBT เป็นการสอบ TOEFL แบบกระดาษ ซึ่งเดิมทีการสอบแบบนี้จะมีจัดขึ้นแค่ในบางประเทศที่ไม่สามารถจัดสอบในคอมพิวเตอร์ได้เท่านั้น และต่อมาจึงได้มีการยกเลิกการจัดสอบนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2021 เป็นต้นไป
TOEFL มีคะแนนเต็มเท่าไหร่
TOEFL iBT มีคะแนนเต็ม 120 คะแนน โดยคะแนนมาจากคะแนนรวมของทั้ง 4 พาร์ท คือ พาร์ทการฟัง (Listening) 30 คะแนน พาร์ทการอ่าน (Reading) 30 คะแนน พาร์ทการเขียน (Writing) 30 คะแนน และพาร์ทการพูด (Speaking) 30 คะแนน โดยเราจะรู้ผลคะแนนหลังวันสอบประมาณ 6-7 วัน
TOEFL ITP มีคะแนนเต็ม 677 คะแนน โดยพาร์ทการฟัง (Listening Comprehension) จะมีคะแนนอยู่ระหว่าง 31-68 คะแนน พาร์ทไวยกรณ์ (Structure and Written Expression) มีคะแนนอยู่ระหว่าง 31-68 คะแนน เช่นเดียวกัน ส่วนพาร์ทการอ่าน (Reading Comprehension) จะมีคะแนนอยู่ระหว่าง 31-67 คะแนน โดยคะแนนรายพาร์ทที่เราทำได้จะถูกนำมาแปลงเป็นคะแนนรวมตั้งแต่ 310 – 677 คะแนน ซึ่งเราจะรู้ผลคะแนนหลังวันสอบประมาณ 3 วัน แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากหน่วยงานที่จัดสอบ TOEFL ITP มีหลากหลาย ดังนั้น แต่ละศูนย์สอบอาจจะมีระยะเวลาการแจ้งผลคะแนนที่เร็วหรือช้ากว่านี้ก็ได้
วิธีการสมัครสอบ TOEFL
วิธีการสมัครสอบ TOEFL iBT สามารถสมัครสอบผ่านเว็บไซต์ของ ETS ได้โดยตรง เริ่มจากการสมัครสร้างแอคเคาน์สำหรับสอบ เลือกประเทศและเมืองที่ต้องการสมัครสอบ จากนั้นให้เลือกวัน เวลา และสนามสอบ กรอกข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติม และเข้าสู่ขั้นตอนการชำระเงิน โดยสามารถชำระค่าสมัครสอบได้ทั้งการตัดบัตรเครดิตหรือ PayPal ก็ได้เช่นเดียวกัน แต่หากเป็นการสมัครสอบ TOEFL ITP ให้ทำการติดต่อกับหน่วยงานที่เปิดสอบโดยตรง เพราะข้อสอบประเภทนี้ หน่วยงานต่าง ๆ สามารถซื้อลิขสิทธิ์ในการจัดสอบได้ ดังนั้น เราจะพบว่ามีหลายหน่วยงานมาก ๆ ที่เปิดให้เราสามารถสมัครสอบ TOEFL ITP ได้ หากเราสนใจสมัครสอบกับที่ใดก็ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของที่นั้น ๆ ได้เลย
ค่าสมัครสอบ TOEFL ราคาเท่าไหร่
กรณีข้อสอบ TOEFL iBT จะกำหนดค่าสมัครสอบแตกต่างกันไปในแต่ละโซนที่ตั้งของประเทศ ซึ่งจะต่างกันไม่เยอะมากนัก โดยสำหรับศูนย์สอบที่ประเทศไทยจะมีค่าสมัครสอบอยู่ที่ $195 ส่วนข้อสอบ TOEFL ITP ค่าสมัครสอบโดยส่วนใหญ่แล้วจะประมาณ 1,800 บาท/ครั้ง แต่เนื่องจากแต่ละหน่วยงานจะเปิดสอบแยกเฉพาะเป็นของตนเอง ดังนั้น ค่าสอบอาจจะไม่เท่ากันก็ได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับรายละเอียดการให้บริการของแต่ละหน่วยงานที่จัดสอบ
TOEFL สอบที่ไหน
สำหรับการสอบ TOEFL โดยปกติจะมีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดบางแห่ง อย่างกรณีสมัครสอบ TOEFL iBT ก็จะมีศูนย์สอบหลายที่ เช่น Interkids Bilingual School , Siam Technological College , THE ENTERPRISE RESOURCE TRAIN , KBU Prometric Testing Center, Kasem Bundit University , Shine Education and Development Co. Ltd , Saint John Mary International School , Asian Maritime Technological College ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า ในแต่ละรอบจะมีศูนย์สอบใดที่ว่างหรือเปิดสอบบ้าง แต่หากเป็นการสอบ TOEFL ITP ส่วนใหญ่แล้วก็จะไปสอบที่หน่วยงานนั้น ๆ เลย ซึ่งเราสามารถตรวจสอบสถานที่สอบกับที่ที่เราสมัครสอบได้
TOEFL TOEIC IELTS อะไรยากที่สุด
ข้อสอบ TOEFL TOEIC IELTS เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษเหมือนกัน แต่อาจจะต่างกันที่โครงสร้างข้อสอบและเนื้อหาในการจัดสอบ รวมถึงวัตถุประสงค์ในการใช้งาน โดยข้อสอบ TOEFL และ IELTS จะเป็นข้อสอบเชิงวิชาการ และเนื้อหาข้อสอบจะมีหลายพาร์ทมากกว่า ส่วน TOEIC เป็นข้อสอบที่เนื้อหาจะเน้นไปในเชิงธุรกิจ ที่แม้จะมีการสอบแค่พาร์ทการอ่าน Grammar และการฟัง แต่ในขณะเดียวกันข้อสอบก็มีจำนวนข้อคำถามอยู่ไม่น้อย ผู้สอบจึงต้องทำข้อสอบเร็วมากจึงจะสามารถทำได้ทัน ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า ข้อสอบแต่ละวิชาจะมีจุดแข็งของตนเองที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น หากสามารถเลือกสอบได้ การเลือกข้อสอบที่เป็นสากลและใช้ยื่นได้อย่างหลากหลายกว้างขวางกว่า ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสให้เราได้ยื่นได้หลากหลายที่มากกว่านั่นเอง
เรียน TOEFL รับรองผล
คอร์สเรียน TOEFL รับรองผล เป็นคอร์สเรียนสำหรับการเตรียมสอบ TOEFL โดยเฉพาะ สำหรับใครที่กำลังจะสอบ TOEFL แต่ยังไม่มั่นใจพื้นฐานภาษาอังกฤษของตัวเอง ยังไม่เคยสอบ พื้นฐานไม่แน่น คอร์สเรียน TOEFL รับรองผลคอ์สนี้จะเป็นตัวช่วยในการเตรียมสอบได้เป็นอย่างนี้ โดยคอร์สเรียนจะสอนครอบคลุมทั้ง Grammar, Reading และ Listening อีกทั้งยังเริ่มสอนตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงการสอนแนวข้อสอบ ดังนั้น ใครที่กำลังกังวลว่าจะเรียน TOEFL ที่ไหนดี คอร์สติว TOEFL รับรองผล นี้ก็นับเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่อยากแนะนำ
Example Featured Products
Showcase other available courses, bundles, and coaching products you’re selling with the Featured Products block to provide alternatives to visitors who may not be interested in this specific product.