สอบ GED เทียบวุฒิเรียนต่อมหาวิทยาลัยทั้งในไทยและต่างประเทศ
GED หรือการสอบ GED คือ รูปแบบการทดสอบเทียบวุฒิสำหรับน้อง ๆ ที่กำลังเรียนอยู่ในระดับมัธยมปลายตามระบบการศึกษาของอเมริกัน ซึ่งเหมาะกับคนที่อยากเรียนจบเร็วขึ้นและยังเป็นหลักสูตรที่มหาวิทยาลัยทั่วโลกให้การยอมรับ
ดังนั้นการทำความเข้าใจกับรูปแบบการสอบนี้อย่างถูกต้องจะช่วยเพิ่มความมั่นใจพร้อมสร้างโอกาสอันดีให้กับทุกคนไม่ยาก ผู้ปกครองหรือน้อง ๆ คนไหนวางแผนสอบเทียบวุฒินี้อยู่มาศึกษาข้อมูลน่าสนใจไปพร้อมกันได้เลย
GED Subjects มีรายวิชาใดที่ต้องสอบบ้าง
ในการสอบ GED น้อง ๆ จะต้องทำคะแนนของ 4 รายวิชา ได้แก่ RLA, Mathematic, Science และ Social Studies ให้ผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนดเอาไว้นั่นคือ 145 คะแนน จากคะแนนเต็มวิชาละ 200 คะแนน ใน 1 ปี มีโอกาสสอบได้ 3 ครั้ง และถ้ามีการสอบรอบ 4 ต้องทิ้งระยะห่างจากรอบล่าสุดไม่ต่ำกว่า 30 วัน
GED มีเปิดให้สอบตลอดทั้งปี จุดประสงค์หลักเพื่อให้ผู้สอบสามารถคิดวิเคราะห์ พร้อมนำเอาความรู้ต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่เน้นเรื่องการท่องจำมากเท่าใดนัก ซึ่งเนื้อหาสำคัญของรายวิชาที่สอบจะประกอบไปด้วย
GED RLA
RLA หรือ Reasoning Through Language Arts ต้องการประเมินทักษะด้านการใช้เหตุผลผ่านภาษาอังกฤษ เนื้อหาจะเน้นสอบเกี่ยวกับ Writing และ Reading เช่น การมี Argumentative Passage หรือบทความขัดแย้งกัน 2 เรื่อง ผู้สอบต้องสรุปแนวคิดและหลักการของบทความทั้ง 2 เป็นต้น มีเวลา 150 นาที
GED Mathematic
การสอบวิชาคณิตศาสตร์จะแบ่งเป็น 2 พาร์ท ได้แก่ การคำนวณ ใช้สูตรที่สอดคล้องกับโจทย์ และการหาคำตอบทางพีชคณิต เนื้อหาหลักยังเป็น Algebra I แต่ก็เพิ่มเติม Quadratic Equation เข้าไปด้วยเช่นกัน มีเวลา 115 นาที
GED Science
การสอบวิชาวิทยาศาสตร์ ส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องที่ต้องพบเจอในชีวิตประจำวัน ลักษณะทางกายภาพ กับเรื่องโลกและจักรวาล แต่ทั้งนี้จะมีแนวข้อสอบการตอบคำถามสั้น ๆ เพิ่มเติมเข้ามาด้วย มีเวลา 90 นาที ในการสอบวิชานี้
GED Social Studies
การสอบวิชาสังคมศึกษา ต้องการประเมินทักษะด้านสังคมศาสตร์ การวิเคราะห์สถานการณ์ต่าง ๆ จากที่โจทย์ได้กำหนดไว้ ส่วนมากเนื้อหาจะเกี่ยวกับประเทศอเมริกาเป็นหลัก เช่น การเมือง การปกครอง ประวัติศาสตร์ชาติ เศรษฐศาสตร์ ภูมิศาสตร์และโลก มีเวลา 70 นาที
GED Requirements ข้อกำหนดในการสมัครสอบ
ในส่วนของข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับคนที่ต้องการสอบ GED ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย แบ่งออกเป็น 2 ข้อหลัก ๆ เท่านั้น ได้แก่
ผู้สอบต้องยังไม่จบการศึกษาในระดับมัธยมปลาย
ผู้สอบต้องมีอายุตั้งแต่ 16 ปี ขึ้นไป
ดังนั้นผู้ปกครองหรือน้อง ๆ คนไหนที่สนใจอยากมีคะแนน GED ก็ลองพิจารณาจากข้อกำหนดเหล่านี้เบื้องต้นเลย หากผ่านก็เท่ากับมีโอกาสทำได้ตามที่ตนเองคาดหวัง
GED Online Free แนะนำช่องทางติวออนไลน์ฟรี
เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการสอบ GED จึงอยากแนะนำช่องทางดี ๆ ที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถติว GED ออนไลน์ฟรี ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายใดเพิ่มเติมทั้งสิ้น หลักแล้วจะมีด้วยกันทั้งหมด 4 แห่ง ประกอบไปด้วย
1. GED Testing Service
มีความเป็นทางการสูงมาก ข้อมูลอัดแน่นตั้งแต่ขั้นตอนสมัครสอบไปจนถึงการอัปเตดข้อมูลใหม่อยู่เสมอทั้ง 4 รายวิชา หัวข้อกับคำตอบจะเรียงลำดับลงไปเพื่อให้เห็นภาพง่ายขึ้น หรือใครอยากเพิ่มเงินเข้าไปอีกเล็กน้อยก็จะมีความพิเศษมากขึ้น คลิกเลย https://ged.com/study/free_online_ged_test/
2. Union Test Prep
จะมี Guide การสอบและระบุเวลาการทำแต่ละพาร์ท รวมถึงยังแนะนำแนวทาง คำตอบที่ถูกต้อง ตรงนี้จะช่วยให้น้อง ๆ เห็นภาพมากขึ้น พร้อมรู้ว่าจุดไหนที่ควรต้องปรับแก้ไข มีบททดสอบฟรีให้ลองทำพร้อมเฉลย ติดตามผ่านช่องทาง Social Media ได้เลย สนใจคลิก https://uniontestprep.com/ged-test/practice-test
3. Chulatutor Channel
เป็นช่อง YouTube ของสถาบันติว GED และภาษาอังกฤษชื่อดังอย่าง “Chulatotur” มักมีการรีวิวข้อสอบพร้อมอธิบายเนื้อหาการสอบแต่ละพาร์ทให้เข้าใจง่ายขึ้น โดยติวเตอร์ที่มีประสบการณ์สูง อัปเดตข้อสอบใหม่อยู่ตลอด ช่วยได้เยอะมาก คลิกที่ https://www.chulatutor.com/ged/
GED Practice Test Free แนะนำทำแบบทดสอบฟรี
นอกจากการติว GED แล้ว หากมีโอกาสได้ทำแบบทดสอฟรีก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสอบให้มีคะแนนดีขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า ซึ่งคำแนะนำสำหรับน้อง ๆ คนไหนที่กำลังหาช่องทางเหล่านี้อยู่ตามมาได้เลย มีบททดสอบให้ทำแน่นอน
1. GED Testing Service
กรณีติวฟรี จะมีข้อสอบ GED ให้ประมาณ ¼ ของเนื้อหาทั้งหมด สามารถลองสอบและประเมินตนเองคร่าว ๆ ได้ว่าถนัดเรื่องไหน แต่ถ้าจ่ายเงินเพิ่มแบบทดสอบจะมีราว 50% ของข้อสอบทั้งหมด
2. Union Test Prep
มีตัวอย่างข้อสอบแยกรายวิชาอย่างชัดเจนเพื่อให้เกิดความเข้าใจง่ายขึ้น มาพร้อมกับเฉลยอย่างละเอียด ทำไมข้อดังกล่าวถึงตอบแบบนั้น ช่วยให้เกิดความเข้าใจและนำไปใช้งานได้อย่างมีคุณภาพ
3. Complete Test Preparation Since 2005
มีแบบฝึกหัดแยกรายวิชาให้ได้ลองทำรวมทั้งหมด 150 ข้อ การได้ลองทำกับเนื้อหาที่มีความคล้ายจริงเมื่อถึงเวลาสอบแล้วจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับน้อง ๆ ทุกคนมากขึ้นกว่าเดิม
สมัครสอบ GED มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
เมื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการสอบ GED มาพอสมควร น้อง ๆ จำนวนมากอาจวางแผนของตนเองเอาไว้แล้ว จึงอยากพาทุกคนมาศึกษาวิธีสมัครสอบแบบง่ายดาย ทำตามรายละเอียดเหล่านี้ได้เลย ไม่ยากอย่างที่คิด
1. ทำการสร้าง GED ID ด้วยการเข้าไปยังหน้าเว็บ www.ged.com เลือก Sign Up คลิก Create Account ทั้งนี้มีเงื่อนไขว่ากรณีที่น้อง ๆ อายุ 18 ปีบริบูรณ์แล้ว สามารถสมัครด้วยการกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ลงไปได้เลย แต่ถ้าใครอายุระหว่าง 16-17 ปี ต้องมีการเซ็น Consent Form หรือใบยินยอมจากผู้ปกครอง จากนั้นรอประมาณ 1-2 สัปดาห์ ระบบจะทำการสร้าง GED ID
2. เมื่อมี GED ID เรียบร้อย ต้องเริ่มจากสมัคร GED Ready ทำแบบทดสอบเบื้องต้นโดยต้องมีคะแนนเกิน 155 คะแนน มีค่าสอบวิชาละ 6.99 USD เมื่อสอบผ่านจึงสามารถทำการสอบ GED ต่อได้
3. เมื่อสอบ GED Ready ผ่านก็สมัคร GED จริงต่อได้เลย เข้าไปหน้าเว็บเหมือนเดิม เลือก Schedule Test เพื่อเลือกรายวิชาที่ต้องการสอบ มีค่าใช้จ่ายวิชาละ 80 USD จากนั้นก็รอให้ถึงวัน-เวลาที่ตนเองสอบได้เลย
ศูนย์สอบ GED มีที่ไหนบ้าง เตรียมตัวให้พร้อม
อีกเรื่องที่อยากให้น้อง ๆ ทุกคนศึกษารายละเอียดก่อนตัดสินใจเลือกสถานที่นั่นคือต้องรู้ว่าศูนย์สอบ GED อยู่ไหนบ้าง เพื่อจะได้เกิดความสะดวก ไม่ต้องเหนื่อยการเดินทาง และลดความเสี่ยงไปไม่ทันด้วย ปัจจุบันจะแบ่งออกได้ ดังนี้
- ศูนย์สอบ Pearson Bangkok ถ.อโศกมนตรี เขตวัฒนา กรุงเทพ
- ศูนย์สอบ Assumption University เอแบคบางนา อำเภอบางเสาธง สมุทรปราการ
- ศูนย์สอบ KMUTT มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ถ.ประชาอุทิศ เขตทุ่งครุ กรุงเทพ
- ศูนย์สอบ Movaci ถ.ช้างคลาน อ.เมือง เชียงใหม่
- ศูนย์สอบ Payap University มหาวิทยาลัยพายัพ ถ.ซุปเปอร์ไฮเวย์ อ.สันทราย เชียงใหม่
- ศูนย์สอบ Thabyay Education Foundation ซ.ดอนแก้ว อ.แม่สอด ตา
- ศูนย์สอบ Phuket Academic Language School ถ.วิชิตสงคราม อ.กระทู้ ภูเก็ต
นี่คือข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับน้อง ๆ หรือผู้ปกครองที่วางแผนอยากให้บุตรหลานได้สอบ GED สำหรับเทียบวุฒิเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรี เชื่อว่าหากตั้งใจไม่ว่าใครก็ทำคะแนนออกมาดีและเดินหน้าไปตามเป้าหมายที่คาดหวังได้อย่างไร้ปัญหา
Example Featured Products
Showcase other available courses, bundles, and coaching products you’re selling with the Featured Products block to provide alternatives to visitors who may not be interested in this specific product.